ยางรั่ว ยางแตก ปะแบบไหน ดีกว่ากัน !

ยางรถยนต์นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของรถยนต์เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นส่วนเดียวของรถยนต์ที่สัมผัสกับถนนร้อนๆ แถมถนนเมืองไทยยังมีทั้งฝาท่อ หลุม และตะปู อยู่กลางถนนอีก วิ่งไปโดนตะปูตำ ยางแตกยางแบนอันตรายมากทีเดียวครับ แล้วถ้ายางมันแบนไปแล้ว หรือโดนตะปูตำมาจะต้องทำอย่างไร ปะยางแบบไหนถึงจะดี เพราะมีอยู่ประมาณ 3 แบบ แล้วอย่างนี้ปะยางแบบไหนดีที่สุดละครับ การปะยางหากแบ่งแล้ว สามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบ ได้แก่ การปะแบบสตรีมแบบร้อน สตรีมแบบเย็น และการปะแบบสอดใส้ครับ

สตรีมร้อน วิธีการนี้ ต้องถอดยางออกจากกระทะล้อครับ (เสี่ยงล้อแม็กเป็นรอย และขอบยางฉีกขาด ครับถ้าโชคร้ายไปเจอร้านไม่ดี และช่างไม่มีคุณภาพ)ถอดยางออกมาเสร็จเค้าก็จะหารูรั่ว แล้วทำความสะอาดโดยรอบบาดแผลด้านในของยาง ด้วยหินเจียร์ จากนั้นใช้กาว และยางปะวางปิดบริเวณรอยรั่วและตามด้วยการนำขึ้นเตาความร้อนเพื่อหลอมละลายยางปะให้เป็นเนื้อเดียวกับยางรถยนต์ของเราและปิดแผลรอยรั่วไป ข้อดี สตรีมร้อน จะปะอยู่ไม่ซึมใดๆทั้งสิ้น บรรทุกหนักได้ตามปรกติ นิยมในกลุ่มรถบรรทุก ข้อเสีย สตรีมร้อนจะทำให้ยางเสียรูป และเสี่ยงต่อยางบวมอีกต่างหาก

สตรีมเย็น วิธีการจะคล้ายกับการสตรีมร้อน คือเมื่อถอดยางออกจากกระทะล้อ ทำความสะอาดโดยรอบบาดแผลด้านในของยาง ด้วยหินเจียร์ ใช้กาวทาทิ้งไว้ให้หมาด ๆ จากนั้นให้แผ่นยางสตรีมเย็น แปะทับลงไปใช้ฆ้อนตีให้เนื้อแนบสนิทปิดบาดแผลรอยรั่ว ข้อดี ยางไม่เสียรูป รถยังขับได้เหมือนเดิมโดยไม่รู่สึกแตกต่าง ข้อเสียจะรองรับน้ำหนักมากๆไม่ได้ ถ้าเป็นกระบะบรรทุกหนัก อาจจะเกิดการรั่วซึ่มที่เดิมได้

การแทงไหม หรือตัวหนอน มักใช้กับบาดแผลขนาดเล็กที่เกิดจากถูกตะปู หรือน๊อตขนาดไม่ใหญ่นัก การทำแบบนี้รวดเร็วมาก แค่ดึงตะปูออก แล้วจากนั้นใช้ตะไบปลายแหลมๆแทงเข้าไปเพื่อทำความสะอาดบาดแผลก่อน ใช้ที่แทงไหมเป็นเหล็กแหลมๆแทงไหมที่มีส่วนผสมระหว่างใยสังเคราะห์ยางดิบและกาวลงไปปิดรู เป็นอันเสร็จ ข้อดี เร็ว ,ง่าย ไม่ต้อง ถอดยางและราคาถูกที่สุด ข้อเสีย ปะไม่ค่อยอยู่อาจจะมีซึมๆตรงจุดที่ปะถ้าแทงไม่ดี ,ปะรูใหญ่ๆ ไม่ได้ต้องเป็นแผลเล็กๆ เท่านั้น
,บางทีหนอนที่ปะ อาจหลุดได้

การปะยาง ยังไงก็หนีไม่พ้นครับสำหรับรถยนต์ที่วิ่งบนถนนเมืองไทย การปะยางในแต่ละแบบมันก็มีข้อดี ข้อเสีย ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการใช้งานลองดูว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้งานของเรามากที่สุด