โดยทั่วไปการปะยางที่เราพบเห็นหรือเปิดให้บริการนั้นแบ่งแยกตามมาตรฐานได้ 2 แบบ คือ การปะแบบ ‘สตีม’ และการปะแบสอดไส้หรือ ‘แทงไหม’ ซึ่งส่วนใหญ่หากผู้ให้บริการมีกรรมวิธีแบบไหน ก็มักจะแนะนำการปะแบบนั้นให้กับลูกค้า ซึ่งบางครั้งทางร้านที่ให้บริการก็ต้องประเมินหรือดูจากแผลความเสียหายของยางด้วยว่าการปะแบบใดจึงเหมาะสม ซึ่งเราจะไปดูกันว่าทั้ง 2 แบบก็มีกรรมวิธีและขั้นตอนที่แตกต่างกันไปอย่างไรบ้าง
ปะแบบสตรีมหรือปะด้วยความร้อน เป็นการปะที่ต้องถอดยางออกมา เพื่อปะรอยรั่วจากด้านในของยาง โดยใช้วัสดุเฉพาะที่เป็นยางแผ่นชิ้นขนาดเล็ก โดยด้านหลังมีตัวทำละลายความร้อนติดอยู่ การปะแบบนี้เมื่อหารูรั่วเจอ ช่างก็จะเอากระดาษทรายหรือหัวเจียรขัดผิวรอบๆ รูรั่วด้านใน จากนั้นใช้กาวยางทาลงไป ก่อนใช้ชุดสตรีมยางปะลงไปอีกที เสร็จแล้วนำเครื่องกดความร้อนมากดทับ เมื่อชุดปะละลายหลอมเชื่อมเกือบเป็นชิ้นเดียวกับเนื้อยางด้านในก็ถือว่าเป็นอันเสร็จ โดยการปะแบบสตรีมนี้เป็นที่นิยมใช้มานาน ในปัจจุบันก็ยังมีร้านเปิดให้บริการอยู่ทั่วไปสำหรับการปะยางแบบสตรีมนี้ เหมาะสำหรับการปะเพื่อซ่อมรอยตำจากตะปู หรือรอยขาดแบบฉีกแบนที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก มีความคงทนใกล้เคียงกับยางแบบเดิมๆ และยังรับแรงอัดได้ดี ส่วนข้อข้อเสียคือใช้เวลาในการปะนานเพราะต้องถอดยางออกจากล้อ ที่สำคัญต้องถ่วงล้อใหม่หลังจากปะเสร็จ หากยางมีความร้อนสูงเป็นเวลานาน ก็อาจมีความเสี่ยงที่ทำให้ชุดปะยางหลุดร่อนออกจากเนื้อยางได้ เพราะไม่ได้หลอมเป็นชิ้นเดียวกัน ค่าบริการต่อแผลประมาณ 150-300 บาทการปะอีกรูปแบบคือการแทงตัวหนอนหรือแทงใยไหม สำหรับการปะแบบไม่ต้องถอดยากออกจากแม็กหรือกะทะล้อ เมื่อช่างเจอรอยรั่วหรือดึงสิ่งของมีคมแหลมที่เป็นสาเหตุออก ก็ทำการแทงขยายปากรูด้วยอุปกรณ์เฉพาะ จากนั้นจึงนำไหมหรือใย หรือบางแห่งก็เรียกว่าตัวหนอนมาใส่อุปกรณ์สำหรับแทง ลักษณะเป็นเข็มร้อยขนาดใหญ่ แทงเข้าไปในรูที่ขยายไว้แล้ว เมื่อแทงเข้าไปให้เหลือปลายหางของแท่งใยทั้ง 2 ฝั่ง จากนั้นช่างจะดึงอุปกรณ์แทงออก แท่งใยที่ถูกแทงเข้าไปก็อุดคารูรั่วนั้นไว้ โดยการปะแบบนี้จะเหมาะสำหรับซ่อมรอยตะปูหรือแผลที่เป็นรูเท่านั้นโดยข้อดีของการปะแบบนี้คือ ไม่ต้องถอดยางออกจากล้อแม็ก และยังทำงานได้รวดเร็วด้วยเวลาไม่เกิน 3 นาที ซึ่งเป็นการซ่อมปากแผลเพื่อป้องกันลมออก อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้น้ำเข้ายางทางดอกยางได้ แต่อาจมีอาการลมยางซึมออกบ้าง ค่าบริการต่อแผลประมาณ 70-100 บาทส่วนจะให้บอกว่าแบบไหนดีกว่ากันนั้น ถ้าต้องการความสะดวกรวดเร็วและไม่อยากเสียเงินถ่วงล้อใหม่ ก็แนะนำให้ใช้การปะด้วยวิธีการแทงตัวหนอนหรือแทงใยไหมครับ ซึ่งบางท่านก็อาจแนะนำว่าแทงตัวหนอนไม่ทนทานเท่ากับการสตรีม ขณะที่วิธีการปะยางด้วยสตรีมแม้ปะแล้วดูแน่นหนาและคงทนกว่า แต่คุณอาจต้องเสียเวลาและเสียเงินมากกว่าเท่านั้นเองครับและสุดท้าย เพื่อความปลอดภัยในทุกๆ การเดินทาง อย่าลืมให้รู้ใจ ประกันรถยนต์ออนไลน์ ดูแลเคียงข้างคุณ